วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ทับทิม

หลายๆคนคงรู้จักทับทิมกันเป็นอย่างดีแล้ว เพราะนอกจากจะเป็นผลไม้ที่มีสีสันสวยงามและมีกลิ่นหอมแล้ว ยังมีคุณประโยชน์นานับประการ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ประวัติความเป็นของทับทิมอย่างแท้จริงว่าที่เราเห็น ทับทิมในเมืองไทยนั้น แท้จริงเป็นผลไม้ที่ มีต้นกำเนิดมาจากเปอร์เซีย (ประเทศอิหร่านในปัจจุบัน) และมีแถบอินเดียตอนเหนือบริเวณเทือกเขาหิมาลัย ในเมืองไทย ทับทิมดูจะเป็นผลไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่นิยมนำไปถวายแด่พระแม่กวนอิม ในประวัติศาสตร์พบว่าได้มีการนำทับทิมมาทำเป็นยารักษาโรคตั้งแต่ 8,000 ปีมาแล้ว ในประเทศเปอร์เซียโบราณมีความเชื่อว่า คุณค่าทางอาหารทุกชนิดที่มีอยู่ในผลไม้ต่างๆ นั้น รวมกันอยู่ในทับทิม ทับทิมเป็นผลไม้ที่ได้รับการเพาะปลูกอย่างแพร่หลาย โดยมีการใช้ทับทิมเป็นสัญลักษณ์ของผลไม้ ถือว่าเป็นผลไม้จากสวรรค์หรือเป็นของขวัญจากพระเจ้า ทับทิมในตำราแพทย์สมัยโบราณ ในผลทับทิมมีวิตามินมากมายหลายชนิด รวมทั้งแมกนีเซียมและแคลเซี่ยม ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบฟอกโลหิต และ ระบบการหมุนเวียนในร่างกาย ในตำราแพทย์โบราณของเปอร์เซีย (ซึ่งถือว่าเป็นต้นตำรับของวิชาแพทย์ตะวันตกในปัจจุบัน)ระบุว่าทับทิมมี ประโยชน์มากมายดังนี้
· การฟื้นฟูสู่สภาพเดิมของหัวใจและตับ
· การฟอกไตและท่อปัสสาวะ
· สมรรถนะในการส่งเสริมการย่อย
· ขจัดไขมันส่วนเกิน
· เป็นยาบำรุงกำลัง
· ช่วยป้องกันการแพ้ท้อง
· ช่วยปรับฮอร์โมนในวัยหมดประจำเดือน
· ปรับปรุงระบบการฟอกและหมุนเวียนโลหิต
· การฟื้นฟูจากโรคเบาหวาน
· สมรรถนะในการกลั้นเสมหะ
· ต่อต้านการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและเพิ่มพลัง
· ป้องกันโรคขี้หลงขี้ลืมในผู้สูงอายุ
· ทำให้ผิวหน้าสวย
ส่วนเปลือกของ ทับทิมก็ยังมีประโยชน์มากมายเช่นกัน  โดย จากการศึกษาวิจัยพบว่าในเปลือกทับทิมมีสารในกลุ่มแทนนินสูง 22-25% โดยประกอบด้วยสารแทนนินในกลุ่ม มี Gallotannin เปลือกทับทิมตากแห้งใช้เป็นยาแก้ท้องเดินและโรคบิดได้ นอก จากนี้ยังพบสารแทนนินในกลุ่ม Ellagictannin ในปริมาณสูงสารในกลุ่มนี้มีคุณสมบัติเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่ดี โดยมีสรรพคุณลดอาการอักเสบ ทั้งยังมีฤทธิ์ต่อต้านมะเร็งกว่า 13 ชนิด ไม่ให้เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งลำไส้ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น